สวัสดีครับ วันนี้ผมอาจจะเพิ่มบทความที่นี่เป็นบทความสุดท้ายแล้วก็ได้เนื่องจากผมอาจจะย้าย

บล๊อคไปใช้ Blogger  ของ Google  แทนซึ่ง Blogger ของ  Google  ฟังชั่นอาจจะไม่เท่า

 Wordpress Pro แต่ของเขาฟรีหมดครับ ซึ่ง WordPress ราคาแพงกว่ามาก

อย่างตอนนี้ผมมีโดเมน  kilvalrikan.com เป็นโดเมนผมจดไว้ใช้เอง แต่ถ้าจะ map ให้ใช้กับ wordpress

จะต้องเสียเงิน 13 USD  ซึ่ง Blogger ไม่ต้องเสียครับ

เดี๋ยวผมอาจจะสอนวิธีย้ายกันใน บทความต่อใครละกันครับ เผื่อใครอยากจะย้ายบ้างไม่ยากอย่างที่คิดครับ

หรือถ้าใครมี บัญชี Google ก็สามารถใช้ได้ทันทีโดยเข้าใช้ที่เว็บไซด์ Blogger.com ครับ

     สวัสดีครับ หายไปเชียร์บอลมาร่วมเดือน ก็มีเวลามาเขียน Blog บ้างแล้วเพราะมันจะรอบชิง พักหลายวันคนดูอย่างเราก็ได้พักตามไปด้วย ดีจริงๆ มาเข้าเรื่องที่จะคุยในวันนี้ดีกว่าครับ หลายๆคนอาจจะได้ยินคำว่า Cloud กันมาแล้วบ้างหรือใครถ้าใช้ iPhone อยู่ก็อาจจะได้ยิน iCloud ที่มีอยู่ในเครื่องแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร วันนี้จะมาบอกเล่าเรื่องราวของ Cloud และบริการต่างๆ ที่เป็น Cloud กันครับ
     Cloud ในที่นี้จะหมายถึง บริการที่ใช้ข้อมูลบนกลุ่มเมฆ กลุ่มเมฆเหล่านี้ก็หมายถึง Server หลายๆเครื่อง และอยู่ในหลายๆที่ ซึ่งเราผู้ใช้สามารถเข้าถึงกลุ่มเมฆเหล่านี้ได้ในทุกๆที่ที่มีการ Access เข้าสู่อินเตอร์เน็ทครับ ไม่ว่าคุณจะใช้ PC Mac iPhone Android ก็จะใช้ข้อมูลร่วมกันบน Cloud นี้แหละครับ ซึ่งถือว่าทำให้ชีวิตเราสะดวกขึ้นเยอะเลยครับ โดยบริการของ Cloud เหล่านี้แบ่งได้เป็นหลายประเภทครับ โดยหลักๆที่ได้ใช้กันก็จะเป็น บริการเก็บข้อมูลออนไลน์ อย่าง Dropbox หรือ 4Shared ที่หลายๆคนรู้จักกันวันนี้ผมก็จะมาเผยบริการต่างๆที่เป็น Cloud และเราสามารถเข้าใช้งานได้แบบฟรีๆ กันครับ
     บริการเก็บข้อมูลออนไลน์ เบื่อไหมครับ เวลาที่เราจะเก็บงานกลับไปทำที่บ้าน เซฟใส่ Flash Drive หรือ Write ใส่ CD แล้วดันลืมวางไว้บนโต๊ะที่ทำงาน หรือทำร่วงหายจนไม่ได้เอางานกลับ แถมไฟล์ที่เราเซฟเก็บไว้ก็มีซะเยอะด้วย เพราะพอแก้ทีนึง เราก็เปลี่ยนชื่อไฟล์ซํกรอบนึง แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อใช้บริหารเก็บข้อมูลออนไลน์ โดยตัวแรกที่แนะนำครับ มีมานานมากแล้ว อาจจะเจ้าแรกๆเลย อย่าง Dropbox โดยเจ้า Dropbox นี้จะมีตัวโปรแกรมเล็กๆให้เราลงที่เครื่องไว้ เมื่อเราต้องการจะนำไฟล์อะไรขึ้น Cloud ก็แค่ก้อปปี้ไฟล์นั้นลงไปใน Folder Dropbox ไฟล์ทั้งหมดของเราก็จะไปอยู่ใน Cloud ซึ่งถ้าเราได้ลง โปรแกรม Dropbox ที่บ้านเรา เมื่อเราเปิดคอมขึ้นมา ไฟล์พวกนี้ก็จะถูก Sync มาที่เครื่องที่บ้านให้เราสามารถทำงานได้ทันทีครับ สะดวกมากจริงๆ โดยบริการที่เหมือน Dropbox ตอนนี้ก็ได้แต่ 4Shared Skydrive GoogleDrive ครับ ส่วน บริการอย่าง iCloud นั้นจะเป็นบริการที่เหมือนกับ Backup ข้อมูลบน iPhone ให้กับเราเช่นพวก Contact หรือการตั้งค่าต่างๆ รวมทั้ง App ของเราด้วยครับ ซึ่งถ้าใครซื้อ iPhone มาแล้วไม่ได้เปิดใช้ iCloud นี่ถือว่าใช้ไม่คุ้มครับ หากใครยังไม่ไปเปิดใช้บริการ iCloud ก็ไปเปิดกันครับ
     สุดท้ายนี้ก็อยากจะบอกว่า Cloud พวกนี้ทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้นในการใช้ข้อมูลร่วมกันหลายๆที่ครับ เพียงแค่ต่อเน็ทก็สามารถใช้ได้แล้ว ส่วนข้อเสียมีอย่างเดียวคือ ไม่ต่อเน็ทใช้ไม่ได้ครับ เดี๋ยวตอนหน้าผมจะมาแนะนำบริการอื่นๆ อย่างพวกเก้บรหัสผ่าน และ Bookmark ออนไลน์ครับ

     วันนี้ขอแถมอีก 1 บทความอาจจะย้อนหลังไปหน่อยแต่ก็น่าจะเป็นประโยชน์อยู่ครับ สำหรับหลายๆคนน่าจะรู้จักการเก็บข้อมูลบน Cloud อย่าง Dropbox Box.net iCloud หรือ 4Shared มาแล้ววันนี้ถึงคราวที่ Microsoft จะออกโปรแกรม Sync ข้อมูลจาก PC ของเราขึ้น Cloud กับเขาบ้างแม้จะช้าไปหน่อยแต่แจ่มมากกว่าทุกเจ้าแน่นอนครับ
     สำหรับ Microsoft Skydrive เปิดตัวมานานแล้วถ้าใครใช้ Hotmail ก็น่าจะได้เห็นหรือลองใช้กันแล้ว แต่มันสามารถเก็บข้อมูลได้โดยการอัพโหลด และดาวโหลดผ่าน Web Browser โดยที่ยังไม่มีโปรแกรม Sync ให้เหมือน Dropbox และ 4Shared แต่วันนี้ Microsoft ก็จัดให้แล้วครับโดยโปรแกรม Skydrive Sync สามารถดาวโหลดมาลงและ Sync ข้อมูลเราได้ทันทีที่ https://skydrive.live.com/ แต่ที่ว่าแจ่มกว่าทุกเจ้าก็รู้ๆกันอยู่แล้วครับว่าปกติ Skydrive สามารถที่จะเปิดไฟล์เอกสารอย่าง MS Word ,Excel ,Power Point ได้เลยผ่านหน้า Browser และที่สำคัญให้เนื้อที่เก็บข้อมูลมากกว่าเจ้าอื่นๆ โดยปกติจะอยู่ที่ 25 GB แล้วซึ่มมากกว่าเจ้าอื่น Dropbox ให้ 2 GB 4Shared ให้ 15 GB ดูแล้วต่างกันเยอะมากๆเลยครับ และตอนนี้ Skydrive สามารถใช้งานได้บน PC ,MAC ,IOS และ Windows Phone ส่วน Platform อื่นๆก็น่าจะตามมาทีหลังครับ ส่วนเรื่องการ Sync ขอบอกเลยว่าทำได้เนียนมาก ผมลองใช้ดูแล้ว พบว่าเร็วกว่าทั้ง Dropbox และ 4Shared แถมความถูกต้องในการ Sync ข้อมูลยังไม่พบว่าเกิดการ Conflict ขึ้นเลยครับ ถือว่าเนียนมาก แนะนำให้ลองใช้ครับ อืมแต่ลืมบอกอีกอย่างสำหรับลูกค้าเก่าจะได้เนื้อที่ 25 GB แต่ถ้าเป็นผู้ใช้ใหม่เหลือ 7 GB นะครับ ^^

http://www.youtube.com/watch?v=t5R4DsE7z8I

ดูแล้วน้ำตาจะไหล เพราะผมก็ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เหมือนกันตอนนี้ เวลากลับบ้านทีก็ได้กินข้าวที่แม่ทำให้กินแล้วน้ำตาจะไหล

     สวัสดีครับทุกๆคนกับวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างวันอาทิตย์ หลายๆคนอาจจะได้ออกไปเที่ยวกันในวันนี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายๆคนเช่นผมที่ไม่ได้ออกไปไหนเนื่องจากเหนื่อยจากการทำงานมา 6 วันเต็มๆครับ แค่แรงจะออกไปซื้อข้าวมากินยังไม่มีเลย แต่อยู่ห้องเฉยๆมันก็เบื่อครับจึงต้องหากิจกรรมอะไรซักอย่างทำที่ทำให้เราไม่เบื่อกับสุดสัปดาห์แบบนี้ วันนี้ผมเลยเปิดอินเตอร์เน็ทเล่นจากที่บ้าน ซึ่งปกติไม่ได้เปิดอยู่แล้วเพราะแค่ทำงานก็เบื่อจะแย่แล้วครับ แต่วันนี้ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด เพราะผมไปเจอของเล่นอีกอย่างนึงจาก Google มันคือ Google Image Search เครื่องมือค้นหาอีกอย่างนึงของ Google ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ให้เรานำรูปมาค้นหาข้อมูลนั่งเอง หลายๆคนอาจจะงงว่ามันทำงานอย่างไร ปกติ Search Engine ทั่วๆไปเราจะใส่ข้อความเพื่อค้นหาว่าข้อความที่เราต้องการค้นหามีข้อมูลอย่างไร แต่เจ้า Image Search กลับกลายเป็นว่าเราเอารูปไม่ว่าจะเป็น บุคคล สถานที่ หรืออะไรที่เราอยากจะหาข้อมูลแล้วลองค้นหาดู ก็จะพบกับข้อมูลของรูปนั้นๆครับ น่าสนใจมากๆครับ หากมครที่เบื่อๆไม่มีอะไรทำสามารถเข้าไปทดลองใช้ดูได้ที่ Google Image Search ขอให้เล่นกันให้สนุกนะครับ สวัสดี

http://www.youtube.com/watch?v=jzIBZQkj6SY&feature=youtu.be
ขำๆครับ แก้เครียด

     สวัสดีครับ วันนี้มีเทคนิคอะไรดีๆมาฝากกันอีกครั้ง สำหรับผู้ที่อยู่ห้องเช่าและใช้เน็ทร่วมกันคนอื่นๆครับ เคยรู้สึกว่าเน็ทเล่นไม่ได้บ้างไหมครับอยู่ดีๆก็เข้าไม่ได้ทั้งๆที่เครื่องไม่ได้เป็นอะไรเลย บางทีอยากจะเช็คเมลหรืออัพสถานะใน Facebook หรือ Twitter ก็ดันใช้เน็ทไม่ได้ทำให้เราหงุดหงิดกัน ดังนั้นเรามาทราบถึงสาเหตุของการที่เน็ทที่ห้องเราใช้ไม่ได้กันก่อนดีกว่าครับ
     สำหรับสาเหตุหลักๆที่เราใช้เน็ทกันไม่ค่อยได้เกิดจากคนเห็นแก่ตัวบางคนโหลดโปรแกรมแบบ Bittorrent กันนั่นเองครับซึ่งปกติโหลด Bittorrent กันมันก็ผิดอยู่แล้วมิหนำซ้ำยังทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีก จากการโหลดแบบไม่เกรงใจ ปรับเต็มสปีดกันเลยทีเดียว แถมใช้เน็ทร่วมคนอื่นยังขออัพโหลดบิทเพื่อได้ค่าอัพโหลดกันอีกมันน่าจริงๆพวกนี้ สาเหตุที่ 2 ก็คือโดนโปรแกรมเน็ทคัท โปรแกรมโบราณที่ยังสามารถใช้งานได้อยู่ตัวนี้คือโปรแกรมที่ทำให้เน็ทห้องเราใช้ไม่ได้ทันทีที่เขาใช้โปรแกรมนี้แต่เจ้า Netcut นี้ก็ยังมีวิธีแก้เพื่อไม่ให้โดนอยู่ครับ ส่วนอีก 1 อย่างที่ทำให้เราใช้เน็ทไม่ได้คือ ความผิดหลาดของอุปกรณ์ที่ทางหอเก่าเกินไปหรือไฟดับ อันนี้ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้คงต้องแจ้งทางหอมาแก้ไขให้ครับ
      เอาล่ะครับหลังจากรู้สาเหตุกันแล้ว เราก็มาหาวิธีแก้กันหน่อยดีกว่า สำหรับหอไหนที่พบคนโหลดบิท เราก็มีโปรแกรมที่จะทำให้เราสามารถดูดอินเตอร์เน็ทให้มันเร็วขึ้นเพื่อแย่งปริมาณ Traffic จากคนโหลดบิท ก็ไม่น่าจะมีไรมากไปกว่าโปรแกรม cFos Speed ที่หลายๆคนน่าจะมีติดเครื่องแล้ว เมื่อเรานำมาลงเจ้า cFos จะช่วยหาเส้นทาง และช่วยดึกอินเตอร์เน็ทให้เราใช้ได้เร็วขึ้นนั่นเองครับ ก็คงต้องลองๆดูนะครับแต่ถ้ามันหนักจริงๆก็น่าจะแจ้งเจ้าของหอให้เค้าช่วยดูแลตรงนี้ หากใครใช้เน็ทแบบเสียเงินน่าจะได้อยู่ แต่ถ้าใครใช้เน็ทฟรีๆก็อาจจะต้องทำใจครับ ต่อไปก็วิธีกันโปรแกรมสุดโฉดอย่างเน็ทคัท ไม่ยากครับ เพียงโหลดโปรแกรมประเภท Firewall มาลงก็ไม่มีใครมาเน็ทคัทเราได้แล้ว ตัวอย่างก็เช่น Firwall ฟรีๆอย่าง Comodo Firewall ครับ แต่ถ้าใครต้องการโปรแกรมกัน Netcut แบบเล็กๆแต่มีโฆษณาแฝงอย่าง AntiNetcut ก็สามารถใช้ได้และก็เบาเครื่องด้วยครับ
     สำหรับวันนี้ผมก็ขอแนะนำไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน ส่วนเรื่องเทคนิคอื่นๆและเรื่องเกี่ยวกับการตั้งค่า Firewall จะมาเขียนในบทความหน้าโปรดรอติดตามกันนะครับ
ลิ้งสำหรับโหลดโปรแกรมต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น
cFosSpeed (30Day-Trial) cFos
Comodo Firewall Comodo Firewall
AntiNetcut AntiNetcut

     สวัสดีครับวันนี้ผมก็มีเรื่องมาเล่าอีกแล้วแต่ขอเป็นเรื่องเกี่ยวกับเว็บไซด์หน่อยละกันครับ จากการที่ช่วงหลังๆเว็บไซด์ที่ผมดูแลอยู่เจอกับปัญหาการโจมตีเว็บไซด์ชนิดหนึ่งที่กลุ่มคนที่โดนจะรู้จักกันในชื่อ lizamoon attack ซึ่งเป็นการโจมตีด้วย SQL Injection (ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ใน Wikipedia ครับ) ชนิดหนึ่ง โดนกันทั่วโลกแล้วซึ่งแม้ว่าจะเกิดขึ้นมานานนับเดือนแล้วแต่ก็ยังมีเว้บไซด์ที่ยังโดนกันอยู่ครับ โดยวันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีป้องกันเบื้องต้นให้กับผู้ที่ต้องการจะแก้ไขปัญหานี้ครับ

รูปภาพการโดนโจมตีแบบ lizamoon
     การตรวจสอบหาว่าเว็บไซด์ที่เราทำอยู่โดนการโจมตีแบบนี้หรือไม่สามารถสังเกตง่ายๆดังนี้ครับ
1. เว็บไซด์ของคุณใช้ฐานข้อมูลด้วยหรือไม่ถ้าไม่ได้ใช้ ไม่ต้องกังวลครับ แต่ถ้าใช้ให้ตรวจสอบต่อข้อ 2
2. หน้าเว็บไซด์เราโหลดช้าผิดปกติไปหรือเปล่า
3. พบเห็นการโหลดไฟล์แปลกๆ โดย Web Browser รุ่นใหม่ๆจะแสดงว่าโหลดไล์อะไรบ้างในแถบล่างนะครับ สังเกตดีดี
4. พบเนื้อหาในเว็บถูกแทรกโดย script แปลกๆ โดย script ที่ว่างนั้นจะเรียกไฟล์ ur.php จากเว็บไซด์ที่เราไม่รู้จัก

     ส่วนสุดท้ายหากใครต้องการเห็นชัดๆ มีโปรแกรมที่ช่วยตรวจสอบว่าเวลาเราเข้าเว็บไซด์นี้จะโหลดข้อมูลอะไรบ้างชื่อว่า fiddler2 ครับ สามารถโหลดได้ตามลิ้งครับ (โหลด fiddler 2) หลังจากโหลดมาแล้วก็ให้ติดตั้งได้ตามปกติครับ ถ้าหากเครื่องเราไม่มี Microsoft.NET Framework 2 โปรแกรมติดตั้งจะพาไปหน้าเว็บโหลดให้เราได้ทันทีครับ เมื่อลงเสร็จแล้วก็สามารถเปิดโปรแกรมเพื่อใช้งานได้ครับ

รูปภาพของโปรแกรม fiddler2
     วิธีใช้งานให้เราเปิดโปแกรม fiddler2 ขึ้นมาหลังจากนั้นเข้าเว็บไซด์ปกติ จะพบว่าโปรแกรมมีการแสดงข้อมูลที่โหลดจากเว้บให้เห็นทุกไฟล์เลยครับ แค่นี้เราก็ตรวจสอบได้แล้วว่าเว็บเราจะพบกับเจ้าไฟล์นี้หรือไม่
     วีธีแก้ไขครับ หลังจากที่เราพบ script lizamoon ในเว็บเรามีวิธีแก้ไขได้หลายแบบครับ ที่ผมทำคือเขียนโปรแกรมเช็ค script ตัวนี้แทนลบทิ้งครับ เป็นวิธีง่ายๆที่จะแก้ไขข้อมูลของเราให้เป็นปกติได้ก่อน แต่ถ้าใครจะใช้วิธี Restore Database ก็ทำได้ครับ
SQL Command เอาไว้ใช้หา Lizamoon ครับ
SELECT * FROM TABLE WHERE COLUMN like ‘%lizamoon script%’;
     ส่วนวิธีป้องกัน มีหลายวิธีครับที่ผมศึกษาจากเว็บไซด์ต่างประเทศครับส่วนใหญ่จะต้องเช็ค SQL Command ว่ามี script แปลกๆแฝงอยู่ก่อนคำสั่ง Query ของเราเพื่อป้องกันการโจมตีประเภทนี้ครับ และอีกวิธีคือการอัพเกรด SQL Server ของเราให้เป็นรุ่น 2008 จะช่วยป้องกันได้ครับ
     อาจจะไม่ละเอียดมาครับเพราะจะเลิกงานแล้ว หากมีอะไรเพิ่มเติมจะแจ้งไว้ส่วนท้ายข้องบทความนี้นะครับ