Review Anime น่าดู Winter 2015

เนื่องจากช่วงนี้ Anime Winter 2015 กำลังเป็นช่วง Climax เหลืออีกเพียง 2-3 ตอนก็จะทยอยจบกันแล้วทั้งยังเรื่องที่ Leftovers มาจาก Fall 2014 อีกหลายเรื่อง วันนี้จะมาแนะนำหลายๆเรื่องที่น่าติดตามกันครับ

สำหรับคนชอบเรื่อง รัก โรแมนติด ดราม่า ปวดตับ เรื่องแรกแนะนำเลยครับ เป็นเรื่องที่ Leftovers มาจาก Fall 2014 คือเรื่อง Shigatsu wa kimi no uso ชื่อภาษาไทย เพลงรักสองหัวใจ (โดยวิบูลย์กิจ) โดยในเรื่องนี้เราจะได้ดูในความพยายามที่จะกลับมาเล่นเปียโนอีกครั้งของ Arima Kousei ซึ่งในอดีต ตัวเขาเป็นนักดนตรีเด็กอัจฉริยะ สามารถชนะในทุกๆการประกวดซึ่งผู้บ่มสอน Kousei ให้เล่นเปียโนก็คือคุณแม่ของเขานั่นเอง แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่คุณแม่ของ Kousei ป่วย และเสียชีวิตไปทำให้ Kousei ไม่สามารถเล่นเปียโนได้อีก แต่อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนวัยเด็ก Sawabe Tsubaki ได้แนะนำให้เขารู้จักกับ Miyazono Kaori นักไวโอลินที่มีความร่าเริง สดใส ทำให้ Kousei เมื่อพบครั้งแรกถึงกับอาจจะเรียกว่าตกหลุมรักกันเลยทีเดียว โดยเรื่องนี้มีเนื้อหาที่ทำให้คนดูตกหลุมรักเสียงเพียงได้ในทันที เนื้อเรื่องที่ไม่หนักไปในช่วงแรกๆ แต่จะเริ่มหนักจริงๆเมื่อเข้ากลางเรื่องในช่วงที่พระเอกเราต้องพยายามอย่างหนักเมื่อจะเล่นเปียโนให้ได้ โดยมี นางเอกให้กำลังใจอยู่เสมอ จนท้ายเรื่องนี่ดราม่าสุดๆ อาจทำให้ตับท่านพังก็เป็นได้ แต่เนื้อเรื่องโดยรวมถือว่าดีมาก เป็นอีกเรื่องที่แนะนำสำหรับคนที่ชอบแนวๆนี้ครับ

10365504_1508378096044829_5306010420981829091_o

เรื่องต่อมา Assasination Classroom เรื่องนี้หลายๆคนน่าจะรู้จัก เพระมาจากการ์ตูนเรื่องห้องเรียนลอบสังหาร เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า อยู่ดีๆวันหนึ่งพระจันทร์ได้หายไป 70% แต่อยู่ดีๆก็มีเจ้าสัตว์ประหลาดหน้าตาคล้ายปลาหมึก ออกมาแสดงความรับผิดชอบโดยบอกว่าในอีก 1 ปีเขาจะทำลายโลกซะ แต่ก่อนหน้านั้นเขายื่นข้อเสนอที่จะสอนนักเรียนในโรงเรียนคุนุกิกะโอกะ ชั้น ม.3 ห้อง E โดยระหว่างที่สอนนั้นนักเรียนสามารถพยายามฆ่าเขาได้ตลอดเวลา และเขาก็จะไมทำร้ายนักเรียน โดยนักเรียนได้ให้ชื่อว่าอาจารย์โคโระ (แปลว่าฆ่าไม่ตาย + คุณครูผสมกัน) เรื่องนี้แค่ดูชื่อเรื่องก็รู้สึกเหมือนเรื่องอะไรที่ดูโหดๆ แต่เอาจริงๆกลับเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ถ้าใครเคยอ่าน GTO มาน่าจะคล้ายๆเรื่องนี้มั้ง มีความตลกโปกฮา กับความเสื่อมของอาจารย์นิดหน่อย แถมยังสอดแทรกแง่คิดดีๆ มีซึ้งบ้าง เรื่องนี้แนะนำเป็นอย่างยิ่งเลยครับ (นางิสะนี่สาวดุ้นชัดๆ หุหุ)

Assassination-Classroom-1     เรื่องที่สาม Kantai Collection : Kan Colle กับสาวน้อยเรือรบ เรื่องราวที่ทำมาจากเกมที่ดังในหมู่ โอตาคุทั้งหลาย ในเรื่องนี้จะสมมติสาวน้อยให้กลายเป็นเรือรบ โดยสาวน้อยเหล่านี้จะต่อสู้กับศัตรูที่เรือกว่ากองเรือห้วงทะเลลึก สาวน้อยแต่ละคนต้องพยายามฝึกฝนตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้และไม่ล่มก่อนวัยอันควร หุหุ สำหรับสาวก สาวน้อย ใหญ่ โมเอะ แนะนำเรื่องนี้เลยครับ

Kantai-Collection-KanColle     เรื่องต่อมา Seiken Tsukai no World Break ฮาเร็มระลึกชาติ (ตั้งเอง) เรื่องราวของโรงเรียนมัธยมปลายที่เป็นที่รวมของเหล่า Savior ผู้กอบกู้ ที่ถูกปลุกความทรงจำจากชาติปางก่อน บางคนจัดเป็น Shirogane ผู้ที่สู้ด้วยร่างกายและควบคุม Prana ได้ บางคนเคยเป็นพวก Kuroma ที่ใช้เวทมนตร์ Mana ในการต่อสู้ แต่ดั้นพระเอกเรา ระลึกได้สองชาติ ทำให้ใช้พลังได้สองอย่าง เทพสุดๆ และยิ่งระลึกชาติได้เยอะ เหล่าสาวๆในฮาเร็มก็เยอะตาม โดยเรื่องนี้ผมว่าภาพมันเผา และเนื้อเรื่องเร่งไป แต่เป็นเรื่องที่มีความน่าสนใจอยู่ครับ ถ้ายังไงลองไปซื้อ Novel มาอ่านเสริมท่าจะดี ที่สำคัญที่แนะนำคือ พระเอกมันไม่แต๋วนะสิ หุหุ ใครเล่นด้วยเฮียแกจัดหมด ไม่รู้จัดไร ติดตามกันดูครับ

Seiken-Tsukai-no-World-Break     เรื่องก่อนสุดท้ายต้องนี่เลยครับ Leftovers มาจาก Fall 2014 เหมือนกัน เรื่องราวที่ทำมาจาก Manga เก่าแก่ ถ้าใครอายุเกิน 20 น่าจะรู้จักกันกับเรื่อง Kiseijuu: Sei no kakuritsu หรือชื่อภาษาไทยในเรื่อง ปรสิต เดรัจฉาน หากใครเคยอ่านแล้วแนะนำให้ดูเวอร์ชั่น อนิเมะนี้เลยครับ เพราะอ่านมานานอาจจะลืมเนื้อเรื่องไปหมดแล้ว เรื่องราวของเด็กหนุ่ม Shiniji ที่นอนอยู่ดีๆก็มีตัวอะไรไม่รู้พยายามจะเข้าหู แต่เข้าไม่ได้เลยมาอยู่ที่มือแทน และเรื่องราวต่างๆก็เริ่มต้นขึ้น ทำให้เขาต้องต่อสู้กับพวก ปรสิต มากมาย บอกเลยว่าเรื่องนี้ 5 ดาวครับ ใครยังไม่ดูต้องลองครับ

XmKante     เรื่องสุดท้าย ก็ Leftovers มาจาก Fall 2014 เช่นกันคือเรื่อง Nanatsu no taizai ตำนานอศวิน 7 บาป เรื่องราวของ “เจ็ดบาป” กลุ่มอัศวินที่ถูกกล่าวหาว่าจะล้มล้างอาณาจักร บริทาเนีย ทำให้กลุ่มอัศวินศักดิ์ศิษย์ออกตามล่า สิบปีต่อมาเหล่าอัศวินศักดิ์ศิษย์ได้ทำการยึดอำนาจและใช้อำนาจข่มขู่ประชาชนทำให้ อลิซาเบธ ลูกสาวคนเดียวของกษัตริย์จึงต้องหนีออกมาตามหา “เจ็ดบาป” ขอความช่วยเหลือของพวกเขาในการกอบกู้อาณาจักร สุดท้ายจึงได้พบกับ เมลีโอดัสหัวหน้าของกลุ่มเจ็ดบาป แต่ก็เหลืออยู่เพียงคนเดียว อลิซาเบธจึงต้องร่วมมือกับเมลีโอดัส เดินทางตามหาเหล้าเจ็ดบาปที่เหลือ แนะนำให้ดูเลยครับ นางเอกโมเอะ บวกน้องหมูที่เรียกเสียงฮาได้ แถมยังมีความดราม่าปะปนกันไป ไม่ได้ดูก็รีบดูซะนะครับ

7-sins     หมดแล้วครับ ลองหาดูกันให้สนุกนะครับ ส่วนเรื่องอื่นๆที่ไม่แนะนำ ผมว่ายังไม่ผ่านครับ บางเรื่องก็ไม่น่าสนใจ บางเรื่องก็ฮาเร็มสัดๆ ส่วนบางเรื่องก็งานเผาฝุดๆ

ลง webui utorrent ใน CENTOS 6.5

วิธีการลง webui ใน centos 6.5 เห็นมีปัญหากันเยอะเรื่อง libssl
วิธีการทำข้างล่างนี้ก้อปปี้เขามา แต่แก้ไขเรื่อง libssl แล้ว สามารถใช้ได้เพราะทดสอบแล้ว หุหุ
ลองไปทำกันดูเด้อ

It has been six years since I migrated to Linux (from windows) and never looked back. I used to use uTorrent on windows as my torrent client. It was small, light-weight and very user friendly. Frankly speaking in these six years of my linux voyage, I never found any alternative to that. Until recently I heard that utorrent is now available for linux. Keeping my hopes high, I gave it a try and it lived up to my expectations. As expected it is free but closed-source, with a little hope from the forums that it might become open-source in the future. But anyways, I am really thankful to the utorrent team for briniging out utorrent for linux.

A couple of things felt missing but still it is  better than the most, infact all! It is currently an alpha release of version 3.0 build, with only web-based GUI and 32bit release (requires 32bit libraries on x64 systems).

Here is a complete step by step installation guide:

Step 0: Pre-Requisites

According to the website:

System Requirements:

  • x86 Ubuntu 9.10+, Debian 5+, Fedora 12+
  • Linux kernel 2.6.13 or newer required

utserver binary requires glibc-2.11 or newer. Do check this before continuing. To check your version of glibc:

rpm -q glibc

(Note: If you have old libraries, or facing any library related error, I have a different guide for you HERE )

I am using a 32 bit Centos 6.2, but this guide should work with most linux distributions. If you are using a x64 distribution, you’ll need to install all the 32 bit libraries.

In case of a 32 bit distro, there are hardly any dependencies to be installed. They are installed by default even in the minimal installations. Here is the list of dependencies anyway:

  • glibc >= 2.11
  • libgcc
  • openssl
  • krb5-libs
  • libcom_err
  • zlib
  • keyutils-libs
  • libselinux

If you are using a 32 bit distro:

yum install glibc libgcc openssl krb5-libs libcom_err zlib keyutils-libs libselinux openssl098e.i686

If you are using a 64bit distro, install the 32bit libraries:

yum install glibc glibc.i[36]86 libgcc libgcc.i[36]86 openssl openssl.i[36]86 krb5-libs krb5-libs.i[36]86 libcom_err libcom_err.i[36]86 zlib zlib.i[36]86 keyutils-libs keyutils-libs.i[36]86 libselinux libselinux.i[36]86 openssl098e.i686

Step 1: Make basic directories

I will keep it in /opt (ofcourse you can keep it anywhere feasible)

mkdir /opt/utorrent
mkdir /opt/utorrent/conf
mkdir /opt/utorrent/data
mkdir /opt/utorrent/pid
mkdir /opt/utorrent/webui
mkdir /opt/utorrent/log

Step 2: Download µTorrent Server

At the time of this writing, µTorrent Server alpha (3.0 build 25053) was the latest available one. You can find the latest release here. Download the package to a tmp location, extract and then copy the required files:

wget -O /tmp/utorrent-server-3.0-25053.tar.gz http://download.utorrent.com/linux/utorrent-server-3.0-25053.tar.gz
tar –directory /tmp -xzf /tmp/utorrent-server-3.0-25053.tar.gz

cp /tmp/utorrent-server-v3_0/utserver /opt/utorrent/

cp /tmp/utorrent-server-v3_0/webui.zip /opt/utorrent/webui/

Step 3: Libraries check

Before proceeding further, it will be a good idea to locate any missing libraries.
Use ldd command to find out any missing library:

ldd -r /opt/utorrent/utserver

You might get the following error:

/opt/utorrent/utserver: error while loading shared libraries: libssl.so.0.9.8: cannot open shared object file: No such file or directory

or

/opt/utorrent/utserver: error while loading shared libraries: libcrypto.so.0.9.8: cannot open shared object file: No such file or directory

If openssl is installed properly, this might be because you have a newer version of the shared library. Creating a softlink should solve the problem.

First find out what version you have:

find  /*/lib /*lib  -type f -name “libssl.so.*”

find  /*/lib /*lib  -type f -name “libcrypto.so.*”

This will show you the library you have installed, for example in my case it showed me that I’ve libssl.so.1.0.0 and libcrypto.so.1.0.0 installed:

[root@localhost ~]# find  /*/lib /*lib  -type f -name “libssl.so.*”
/usr/lib/libssl.so.0.9.8e

[root@localhost ~]# find  /*/lib /*lib  -type f -name “libcrypto.so.*”
/usr/lib/libcrypto.so.0.9.8e

Now simply create a soft link from the one you have to the one required by utserver:

ln -s /usr/lib/libssl.so.0.9.8e /usr/lib/libssl.so.0.9.8

ln -s /usr/lib/libcrypto.so.0.9.8e /usr/lib/libcrypto.so.0.9.8

(ofcourse you can always install the correct version of openssl instead of doing this softlink trick)

If every thing is fine you should get output some what like this:

[root@his apps]$ ldd -r /opt/utorrent/utserver
/opt/utorrent/utserver: /usr/lib/libcrypto.so.0.9.8: no version information available (required by /opt/utorrent/utserver)
/opt/utorrent/utserver: /usr/lib/libssl.so.0.9.8: no version information available (required by /opt/utorrent/utserver)
linux-gate.so.1 =>  (0x0042c000)
libssl.so.0.9.8 => /usr/lib/libssl.so.0.9.8 (0x00cb8000)
libcrypto.so.0.9.8 => /usr/lib/libcrypto.so.0.9.8 (0x009dc000)
libpthread.so.0 => /lib/libpthread.so.0 (0x00110000)
libm.so.6 => /lib/libm.so.6 (0x00800000)
librt.so.1 => /lib/librt.so.1 (0x001a2000)
libgcc_s.so.1 => /lib/libgcc_s.so.1 (0x00465000)
libc.so.6 => /lib/libc.so.6 (0x001ab000)
/lib/ld-linux.so.2 (0x005a8000)
libgssapi_krb5.so.2 => /lib/libgssapi_krb5.so.2 (0x00c25000)
libkrb5.so.3 => /lib/libkrb5.so.3 (0x0033b000)
libcom_err.so.2 => /lib/libcom_err.so.2 (0x0012b000)
libk5crypto.so.3 => /lib/libk5crypto.so.3 (0x00622000)
libresolv.so.2 => /lib/libresolv.so.2 (0x00130000)
libdl.so.2 => /lib/libdl.so.2 (0x0045b000)
libz.so.1 => /lib/libz.so.1 (0x00767000)
libkrb5support.so.0 => /lib/libkrb5support.so.0 (0x004be000)
libkeyutils.so.1 => /lib/libkeyutils.so.1 (0x00991000)
libselinux.so.1 => /lib/libselinux.so.1 (0x0014a000)

(You can ignore the “no version information” warning). This shows every requirement is fulfilled and utorrent server can now run on this machine. Lets now do some final config tweaks.

Step 4: Create config file

In theory you can just run the utserver binary (like you did in the previous step), and utorrent server should be ready and useable. You don’t necessarily need a config file But it is always a good idea to have a config file in hand, it’ll make editing and experimenting with the configurations much easier and give you a lot more options to play with.

I wasn’t able to find a complete and comprehensive config file. Users are either not using config file or using it just for a couple of options.
I’ve created this config file from the documentation and added all the options I found. All the directives are explained in the comments and set to the default value.

Here it is (only dir_root is set to /opt/utorrent/data all other values are default):

###########################################
###                                     ###
### Utorrent Server v3.0 Config File    ###
###                                     ###
### By Khizer Naeem                     ###
### [email protected]               ###
### Date: 29/12/2011                    ###
###                                     ###
###########################################
###########################################
# Note: – Don’t use quotes or double quotes when giving a value
#       – Don’t add trailing / when specifying any directory

#####################
## Regular Settings #
#####################

#bind_port (integer):
#    Default value: 6881. Port used for BitTorrent protocol. This can be any value in the range 1025-65000.
bind_port: 6881

#max_ul_rate (integer):
#    Default value: -1. Maximum total upload rate in kilobytes per second. -1 means unlimited. We recommend setting it to -1.
max_ul_rate: -1

#max_ul_rate_seed (integer):
#    Default value: -1. Maximum per-torrent upload rate when seeding, in kilobytes per second. -1 means unlimited. We recommend setting it to -1.
max_ul_rate_seed: -1

#conns_per_torrent (integer):
#    Default value: 50. Maximum number of connections for a given torrent.
conns_per_torrent: 50

#max_total_connections (integer):
#    Default value: 200. Maximum number of connection opened at the same time.
max_total_connections: 200

#auto_bandwidth_management (boolean):
#    Default value: true. If true, upload bandwidth is automatically throttled in order to not impact other applications using TCP/IP.
auto_bandwidth_management: true

#max_dl_rate (integer):
#    Default value: -1. Maximum total download rate in kilobytes per second. -1 means unlimited. We recommend setting it to -1.
max_dl_rate: -1

#seed_ratio (integer):
#    Default value: 0. Seed ratio in percent (%) (e.g. 100 means 100%). If not 0, seeding will stop after reaching this upload/download ratio.
seed_ratio: 0

#seed_time (integer):
#    Default value: 0. Time after which seeding will stop, in seconds. 0 means seeding won’t stop.
seed_time: 0

#####################
# Internal Settings #
#####################

#bind_ip (string):
# IP address to use for socket connections. If not provided, a default IP address will be used. We do not recommend changing this value.

#ut_webui_port (integer):
# Default value: 8080. Port number where the utserver process accepts HTTP RPC API calls to support the µTorrent-compatible HTTP interface.
ut_webui_port: 8080

#token_auth_enable (boolean)
# Default value: true. If true, the µTorrent HTTP interface defends against cross-site request forgeries.
# If false, the µTorrent HTTP interface will not be protected in this manner.
token_auth_enable: true

#dir_root (string):
# Default value: “”. If not empty, dir_active, dir_completed, and dir_torrent_files are relative to this directory.
dir_root:/opt/utorrent/data

#dir_active (string):
# Default value: “./”. Directory in which currently downloaded data is saved.
# Can be an absolute path or relative to dir_root or the current working directory if dir_root is not defined or an empty string.
#dir_active: ./

#dir_completed (string):
# Default value: “”. Directory where completed downloads are stored.
dir_completed:

#dir_download (string):
# Default value: “”. Optional directory where completed downloads can be stored, instead of in dir_completed.
# If no value is specified for this setting, the value of dir_completed is used.
# This option can be specified multiple times in the file – once for each directory to be designated as such.
# This option can be used when adding torrents via the µTorrent HTTP interface, not via the SDK interface.
# Use the action list-dirs to obtain a list of download directories from the µTorrent HTTP interface.
# Use the option download_dir to specify which of these directories to use when adding a torrent by URL or file through the µTorrent HTTP interface;
# The index of each entry will be in order in which each entry appears in utserver.conf
dir_download:

#dir_torrent_files (string):
# Default value: “”. Directory where torrent files are stored. If the empty string, the value of dir_active is used.
dir_torrent_files:

#dir_temp_files (string):
# Default value: “”. Directory where temporary files are stored. If the empty string, the value of dir_active is used.
# Using a separate directory just for temporary files allows for deleting the files in this directory on boot and/or periodically.
# The utserver process creates temporary files with a .utt extension,
# if a value for this setting is specified, the utserver process will delete all files with that extension in that directory at process startup.
# The value should specify a directory, not a symbolic link to a directory.
dir_temp_files:

#dir_autoload (string):
# Default value: “”. Directory where torrent files will be recognized and auto-loaded. If the empty string, auto-load is disabled.
dir_autoload:

#dir_autoload_delete (boolean):
# Default value: false. If true, torrent files in the autoload directory will be deleted after being loaded,
# else they will be renamed with an extension of .loaded. The dir_autoload setting must be specified for this setting to have an effect.
dir_autoload_delete: false

#upnp (boolean):
# Default value: true. If true, UPNP functionality for mapping ports is used by utserver. We recommend setting this value to true.
upnp: true

#natpmp (boolean):
# Default value: true. If true, NAT-PMP functionality for mapping ports is used by utserver. We recommend setting this value to true.
natpmp: true

#lsd (boolean):
#    Default value: true. If true, Local Service Discovery is enabled. We recommend setting this value to true.
lsd: true

#dht (boolean):
# Default value: true. If true, Distributed Hash Table extension is enabled. We recommend setting this value to true.
dht: true

#pex (boolean):
# Default value: true. If true, Peer Exchange extension is enabled. We recommend setting this value to true.
pex: true

#rate_limit_local_peers (boolean):
# Default value: false. If true, rate limiting also applies to communications with peers in the local subnet. We recommend setting this value to false.
rate_limit_local_peers: false

#disk_cache_max_size (integer):
# Default value: 0. Maximum amount of memory used by each of the read, write, and piece caches. Value is in megabytes.
# If 0, accepts the SDK’s default choices on selecting sizes of disk caches. Maximum value is 512.
disk_cache_max_size: 0

#preferred_interface (string):
# Default value: “”. If defined, name of network interface to be preferred,
# when attempting to search among network interfaces for an external IP and hardware address.
# If empty string, preferred interface is ignored.
preferred_interface:

#admin_name (string):
# Default value: “admin”. If defined, name that must be supplied (along with the password) when authenticating to the server via the HTTP interface.
# This allows the administrator to define an initial non-default value for this name.
# This value will not be applied from utserver.conf if settings.dat already exists.
admin_name: admin

#admin_password (string):
# Default value: “”. If defined, password that must be supplied (along with the name) when authenticating to the server via the HTTP interface.
# This allows the administrator to define an initial non-default value for this password.
# This value will not be applied from utserver.conf if settings.dat already exists.
admin_password:

#logmask (integer):
# Default value: 0. A mask whose bits when set allow certain categories of log messages to be generated.
# The bits (0 – 31) in the value of this setting correspond to a set of internal events and subsystems.
#
#        3 – send have
#        6 – hole punch
#        7 – got bad piece request
#        8 – trace
#        9 – piece picker
#        10 – got bad cancel
#        11 – got bad unchoke
#        12 – got bad piece
#        13 – rss
#        14 – rss error
#        15 – got have
#        16 – got bad have
#        17 – error
#        18 – aggregated
#        19 – disconnect
#        20 – out connect
#        21 – in connect
#        22 – UPnP
#        23 – UPnP error
#        24 – NATPMP
#        25 – NATPMP error
#        26 – metadata finish
#        27 – web UI
#        28 – got bad reject
#        29 – pex
#        30 – peer messages
#        31 – blocked connect
logmask: 0

#dir_request (string):
# Default value: “”. Directory where maintenance request files will be recognized, loaded, and deleted.
# If the empty string, maintenance request handling is disabled.
#
# Your software running on your device can create the following files in this directory in order to request the following maintenance procedures.
#
#    If the file c.utmr is created in or moved into this directory,
#    the credentials necessary to access the µTorrent HTTP interface will be reset to username admin and a blank password.
#
#    If the file wipl.utmr is created in or moved into this directory,
#    the IP restriction list that limits the IPs that can use the µTorrent HTTP interface is cleared,
#    so that there will be no restrictions on IP address.
#
#    If the file rcf.utmr is created in or moved into this directory,
#    the server will reload the configuration file. If you always use this method to request a configuration file reload,
#    you can safely change the value of this setting while the server is running.

#ut_webui_dir (string):
# Default value: “”. Directory where the web UI file archive webui.zip is stored,
# or which contains a webui subdirectory within which the unarchived web UI files are stored.
# It can be an absolute path or set relative to the current directory.
ut_webui_dir:

#finish_cmd (string), state_cmd (string):
# Default value: “”. If defined,
# finish_cmd is a command that will be executed upon completion of each torrent.
# state_cmd is a command that will be executed when a torrent changes state.
# The command is run asynchronously as the same user that runs the server process.
#
#    The server permits substitutions in the command text as follows:
#
#    %F Name of downloaded data file (for single-file torrents)
#    %D directory where torrent data files are saved
#    %N torrent title
#    %S torrent state
#    %P previous state of torrent
#    %L label associated with torrent
#    %T tracker
#    %M status message
#    %I hex-encoded info-hash
#
#    State (%S) and previous state (%P) are integers that have the following values:
#
#    1 (error)
#    2 (checked)
#    3 (paused)
#    4 (super seeding)
#    5 (seeding)
#    6 (downloading)
#    7 (super seeding (forced))
#    8 (seeding (forced))
#    9 (downloading (forced))
#    10 (queued seed)
#    11 (finished)
#    12 (queued)
#    13 (stopped)
finish_cmd:
state_cmd:

Don’t worry most of the lines in the config are comments (only 34 directives in total). I recommend going through it once.

Copy-Paste this configuration into the file utserver.conf in /opt/utorrent/conf/ directory using your favourite text editor like vim or download it directly:

wget -O /opt/utorrent/conf/utserver.conf http://kxr.me/blog/uts/utserver.conf

Now you can start the utorrent server with the following command:

/opt/utorrent/utserver -settingspath “/opt/utorrent/webui/” -configfile “/opt/utorrent/conf/utserver.conf” -logfile “/opt/utorrent/log/ut.log” -pidfile “/opt/utorrent/pid/utserver.pid” -daemon

and stop it with:

 kill `cat /opt/utorrent/pid/utserver.pid`

That is not very convenient, so lets create a script to make things easier.

 #!/bin/sh

uts_bin=”/opt/utorrent/utserver”
pid_file=”/opt/utorrent/pid/utserver.pid”
settings_path=”/opt/utorrent/webui/”
config_file=”/opt/utorrent/conf/utserver.conf”
log_file=”/opt/utorrent/log/ut.log”

start(){

if [ -s “$pid_file” ]
then
kill -s 0 `cat $pid_file` > /dev/null 2>&1
if  [ “$?” == “0” ]
then
echo “Err: Utorrent seems to be running, PID `cat $pid_file`”
else
echo “Starting Utorrent Server..”
cd $settings_path;$uts_bin -settingspath $settings_path -configfile $config_file -logfile $log_file -pidfile $pid_file -daemon
fi
else
echo “Starting Utorrent Server..”
cd $settings_path;$uts_bin -settingspath $settings_path -configfile $config_file -logfile $log_file -pidfile $pid_file -daemon
fi
}
stop(){
if [ -s “$pid_file” ]
then
kill -s 0 `cat $pid_file` > /dev/null 2>&1
if  [ “$?” == “0” ]
then
echo “Stopping Utorrent Server..”
kill `cat $pid_file`
tail -f /dev/null –pid `cat $pid_file`
rm -f $pid_file
else
echo “Err: Utorrent seems to be stopped, PID file $pid_file not found or empty”
fi
else
echo “Err: Utorrent seems to be stopped, PID file $pid_file not found or empty”
fi
}
status(){
if [ -s “$pid_file” ]
then
kill -s 0 `cat $pid_file` > /dev/null 2>&1
if  [ “$?” == “0” ]
then
echo “Utorrent seems to be running, PID `cat $pid_file`”
else
echo “PID file present, but no process with PID `cat $pid_file` running”
fi
else
echo “Utorrent seems to be stopped, PID file $pid_file not found or empty”
fi
}

case “$1” in
start)
start
;;
stop)
stop
;;
reload)
stop
rm -vf $settings_path/settings.dat*
start
;;
status)
status
;;
*)
echo “Usage $0 {start|stop|reload|status}”
;;
esac

Create a file called utsctl in /opt/utorrent and copy-paste the code into it using your favourite editor or download it directly:

wget -O /opt/utorrent/utsctl http://kxr.me/blog/uts/utsctl

Once you have created this script file, lets make it executeable:

chmod +x /opt/utorrent/utsctl

And also make it easily accessible, so that we don’t have to type the whole path again and again:

ln -s /opt/utorrent/utsctl /usr/bin/utsctl

Now starting stoping and checking the status is as easy as this:

utsctl start

utsctl stop

utsctl status

Step 5: Start µTorrent Server

Lets now start the utorrent server:

utsctl start

It should output “server started – using locale en_US.UTF-8” and return back to bash prompt. (Optionally, you can add this command to rc.local to auto-start it at startup)

You should now be able to access the utorrent server gui on localhost:

http://localhost:8080/gui

or via the ipaddress/hostname if accessing from a remote computer:

http://1.2.3.4:8080/gui

(don’t forget to allow this port in the system’s iptable firewall and any other firewall in between)

Here is a screen-shot:

Playing with the configuration:

When you change a configuration in utserver.conf, just restarting the utserver daemon won’t update the changes in WebUI. You’ll have to remove the settings.dat files and then start the server again i.e,

utsctl stop
rm -f /opt/utorrent/webui/settings.dat*
utsctl start

I’ve added the “reload” option in the utsctl script that will do all these three things:

utsctl reload

Good Luck 🙂

Source : http://blog.kxr.me/2011/12/utorrent-server-on-linux-step-by-step.html

Modify : kilvalrikan.com

For you ~Tsuki no Hikari ga Furisosogu Terrace~

เพลงประกอบ Anime เรื่อง shigatsu wa kimi no uso ตอนที่ 14 ครับ
ส่วนเนื้อเพลงตอนนี้ยังไม่มีไว้หาได้จะเอามาลงต่อนะครับ

วิธีทำ SSL แบบ Single Domain กับ IIS 7

SSL Host Headers in IIS 7 allow you to use one SSL certificate for multiple IIS websites on the same IP address. Through the IIS Manager interface, IIS only allows you to bind one site on each IP address to port 443 using an SSL certificate. If you try to bind a second site on the IP address to the same certificate, IIS 7 will give you an error when starting the site up stating that there is a port conflict. In order to assign a certificate to be used by multiple IIS sites on the same IP address, you will need to set up SSL Host Headers by following the instructions below.

What Type of SSL Certificate Do You Need?

Because you can only use one certificate, that certificate needs to work with all the hostnames of the websites that you use it with (otherwise you will receive a name mismatch error). For example, if each of your IIS 7 websites uses a subdomain of a single common domain name (like in the example below), you can get a Wildcard Certificate for *.mydomain.com and it will secure site1.mydomain.com, site2.mydomain.com, etc.

If, on the other hand, your IIS 7 sites all use different domain names (mail.mydomain1.com, mail.mydomain2.com, etc.), you will need to get a Unified Communications Certificate (also called a SAN certificate).

Setting up SSL Host Headers on IIS 7

  1. Obtain an SSL certificate and install it into IIS 7. For step-by-step instructions on how to do this, see Installing an SSL Certificate in Windows Server 2008 (IIS 7.0).

    Install SSL Certificate into IIS 7

  2. Once the certificate is installed into IIS, bind it to the first site on the IP address.

    Bind the SSL Certificate to the first site on the IP address

  3. Open the command prompt by clicking the start menu and typing “cmd” and hitting enter.
  4. Navigate to C:\Windows\System32\Inetsrv\ by typing “cd C:\Windows\System32\Inetsrv\” on the command line.
  5. In the Inetsrv folder, run the following command for each of the other websites on the IP address that need to use the certificate (copy both lines):

    appcmd set site /site.name:"<IISSiteName>" /+bindings.[protocol='https',bindingInformation='*:443:<hostHeaderValue>']

    Replace <IISSiteName>  with the name of the IIS site and <hostHeaderValue> with the host header for that site (site1.mydomain.com)

    Run AppCmd to bind the other sites to port 443 using the same certificate

  6. Test each website in a browser. It should bring up the correct page and show the lock icon without any errors. If it brings up the web page of the first IIS site, then SSL Host Headers haven’t been set up correctly.

If you need to set up multiple site to use a single SSL certificate on IIS 6 or Apache, see How To Configure SSL Host Headers in IIS 6. For more information about SSL Host Headers in IIS 7 see IIS 7.0: Add a Binding to a Site and SSL certificates on Sites with Host Headers.

Source : https://www.sslshopper.com/article-ssl-host-headers-in-iis-7.html

Let Me Hear – Fear, and Loathing in Las Vegas

Let Me Hear – Fear, and Loathing in Las Vegas

เพลงประกอบ อนเมะเรื่อง kiseijuu sei no kakuritsu ในชื่อภาษาไทย ปรสิท เดรัจฉาน มันสาดดดมาก

สวัสดีปีใหม่ 2558 (ช้าไปนิด)

สวัสดีครับ มาช้าไปนิดเพราะงานเยอะ + อนิเมะใหม่ออกกันถี่ๆต้องไล่เก็บให้หมดก่อนอ่ะครับ ยังไงก็สวัสดีปีใหม่ 2558 ครับ ขอให้ Follower ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง ทำอะไรก็ประสพแต่ความสำเร็จ และรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน โบนัสเยอะๆ (ส่วนผมคงต้องนอนฝันเอาเรื่องนี้ -*-) กันถ้วนหน้าครับ

ปีเก่าที่แล้วมีหลายเรื่องให้น่าจดจำสำหรับผม ตั้งแต่ต้นปี 2557 ที่จำได้ก็ปากแหกร่วมเดือนทำให้กินอะไรไม่อร่อย ถัดมาต้องเรื่องที่ผมย้ายบ้านมาอยู่ที่ใหม่ หมู่บ้านใหม่ที่ค่อนข้างเงียบสงบ และไม่มีปัญหาเรื่องหมาเห่า เพราะเขาเลี้ยงกันทุกบ้าน อ่าวคิดไม่ออกและ ไม่มีอะไรน่าจดจำเลย 555 มนุษย์เงินเดือนก็งี้แหละครับ จำได้แต่ เช้าตื่นนอน ไปส่งตัวเล็ก ไปทำงาน เย็นก็ขี่กลับบ้าน กินข้าว นอน วนเวียนอยู่อย่างนี้ไปตลอด เริ่มปีนี้สงสัยต้องทำอะไรใหม่ๆให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้นแล้วล่ะครับ

ส่วนของทุกๆคนเรื่องราวปีเก่าเป็นยังไงไม่สำคัญครับ สำคัญว่าเรามาทำปีใหม่ของเราให้มีอะไรที่น่าจดจำ กันดีกว่าครับ สุดท้ายนี้ขออวยพรให้ทุกท่านโชคดีครับ

 

Himawari no Yakusoku – Motohiro Hata OST Stand by me Doraemon

ได้ดูเรื่อง Stand by me Doraemon มาแล้ว แจ่มมากครับ เรียกน้ำตาได้มากโข ดูแล้วประทับใจสุดๆ หลังจากดูจบก็จะมีเพลงของเรื่องนี้ เพราะมากครับ เลยอยากมาแบ่งกันกันฟัง

Sunflower’s promise

Why did you cry, when I’m no longer beside you
I only can grieving at my self
Even I dont know what’s wrong with me
These time right now will always be our treasure

Am I still have a small chance to be with you?
The laughing us, that’s what I always wanted to see
You are who as soft as sunflower
With all of it’s warmness
I’ll telling you the future
Because I already find the meaning of the true happiness

We often together seeing the future
I always believing that your future will be better this way
I always hoping that you will stepping which the way we go through

Please dont ever forget the times when we were together
You’re who smiling when we grab each other hand before parting
You are who as soft as sunflower
With all of it’s warmness
If you want me to coming back,
Can you said it that you believing at me?

Am I still have a small chance to be with you?
The laughing us, that’s what I always wanted to see
You are who as soft as sunflower
With all of it’s warmness
For now I’ll telling you the future
Because I already find the meaning of the true happiness

Romanji สำหรับใครอยากร้องตามครับ
Doushite kimi ga naku no mada boku mo naite inai noni
Jibun yori kanashimu kara tsurai no ga dotchi ka wakaranaku naru yo
Garakutadatta hazu no kyou ga futari nara takaramono ni naru
Soba ni itai yo kimi no tame ni dekiru koto ga
Boku ni aru kana
Itsumo kimi ni zutto kimi ni
Waratteite hoshikute
Himawari no youna massugu na sono yasashisa wo
Nukumori wo zenbu
Korekara wa boku mo todokete ikitai
Koko ni aru shiawase ni kidzuita kara
Touku de tomoru mirai moshimo bokura ga hanarete mo
Sorezore aruite yuku sono saki de mata deaeru to shinjite
Chiguhagu datta hazu no hohaba hitotsu no you ni ima kasanaru
Soba ni iru koto nanigenai kono shunkan mo
Wasure wa shinai yo
Tabidachi no hi te wo furu toki
Egao de irareru you ni
Himawari no youna massugu na sono yasashisa wo
Nukumori wo zenbu
Kae shita ikeredo kimi no koto dakara
Mou juubun da yotte kitto iu kana
Soba ni itai yo kimi no tame ni dekiru koto ga
Boku ni aru kana
Itsumo kimi ni zutto kimi ni
Waratteite hoshikute
Himawari no youna massugu na sono yasashisa wo
Nukumori wo zenbu
Korekara wa boku mo todokete ikitai
Hontou no shiawase no imi wo mitsuketa kara.

ซีดีมือสอง ทำไมโดนจับ?

สวัสดีครับ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนคงมีเหตุการณ์หนึ่งที่น่าจะเป็น Talk of facebook เลยก็ว่าได้ เรื่องของคนเก็บขยะ ที่โดนจับจากการขาย CD ในตลาดนัด โดนปรับเป็นแสน เขาไม่มีเงินจ่ายจนต้องทำให้ติดคุกใช้หนี้แทน แต่ไม่กี่วันหลังจากออกข่าว มีผู้ใจบุญช่วยออกเงินค่าปรับให้เขาทันที ซึ่งนี่อาจจะเป็นบทเรียนราคาแพงทีเดียว

ลองอ่านหลายๆคอมเม้นใน Facbook มีแต่ด่าครับว่าจับเขาทำไม ไม่ไปจับ ซีดีเถื่อน นั่นก็จริงครับ มันเป็นด้านมืดของเมืองไทยนี่เหละ แต่ตำรวจไม่จับก็รู้ๆกันอยู่ หรือบางคอมเม้นบอกว่า ซีดีก็ของเรา เราจะเอาไปขายมือสองทำไมจะไม่ได้ ความจริงคือการขาย CD มือสองผิดกฏหมายจริงๆครับ ตามมาตรานี้

พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
มาตรา 31
  ผู้ใดรู้อยู่แล้วหรือมีเหตุอันควรรู้ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ ของผู้อื่น กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานนั้นเพื่อหากำไร ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
(1)  ขาย มีไว้เพื่อขาย เสนอขาย ให้เช่า เสนอให้เช่า ให้เช่าซื้อ หรือเสนอให้เช่าซื้อ
(2)  เผยแพร่ต่อสาธารณชน
(3)  แจกจ่ายในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของลิขสิทธิ์
(4)  นำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร

มาตรา 70  ผู้ใดกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ตามมาตรา 31 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำเพื่อการค้า ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนถึงสองปี หรือปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แล้วทำไมถึงผิด ในเมื่อเราซื้อมาแล้ว เราจะขายต่อทำไมทำไม่ได้ ยกตัวอย่างเลยครับ โดยทั่วไปแล้ว ผลงานที่มีลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นเพลง หนัง หนังสือ หรืออื่นๆ เจ้าของลิขสิทธิ์ มีสิทธ์โดยชอบที่จะนำมันมาปั้ม มาพิมพ์ ขายใช่ไหมครับ ส่วนใหญ่ขายตามเซเว่น ที่เห็นๆกัน หลังจากเราซื้อมาแล้ว ถือว่าได้ซื้อของถูกต้องตามลิขสิทธิ์ โดยเรามีสิทธิ์ที่จะ ดู ฟัง อ่าน ได้หมด แต่ในที่นี้ ต้องไม่แจกจ่ายให้ใครนะครับ เราดูได้คนเดียว เปิดในบ้าน ในมือถือในรถได้ แต่ถ้ามาเปิด หน้าร้านข้าวต้ม ร้านขายแกง นี่ผิดทันทีในข้อเผยแพร่ต่อสาธารณะชน ในการขายมือสองก็เป็นกรณีเดียวกันครับ ในเมื่อเราไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ เราได้สิทธิ์ในการ ดู ฟัง อ่าน อย่างเดียว พอเราเอามาขายเท่ากับเรามาหารายได้จากผลงานของเขา ทำให้เราผิดทันทีครับ

ยังไงก็ระวังเวลาจะทำอะไรเกี่ยวกับพวกนี้ไว้ครับ เรื่องลิขสิทธิ์นี่โทษหนักๆทั้งนั้นครับ อย่าคิดว่า คนนู่นทำไม่โดน คนนี้ทำไม่โดน ปล่อยเขาไปครับ บางคนเขามี คนเบื้องหลัง ที่มี พาวเวอร์มากๆ ก็ทำได้ครับ พวกเราตัวเล็กๆ อย่าไปเสี่ยงจะดีกว่าครับ สุดท้ายก็ขอให้โชคดีไม่โดนจับลิขสิทธิ์นะครับ อิอิ

แก้ปัญญา เปิด PC Setting เปิดไม่ขึ้น ใน Windows 8

1. Double check to make sure that access to PC settings has not been disabled.

2. Press the Windows + R keys to open the Run dialog, copy and paste the path below into Run, and click/tap on OK.

%ProgramData%\Microsoft\Windows\Start Menu\Programs

3. Check to see if you have the PC settings (aka: Immersive Control Panel) shortcut. (see screenshot below)

Click image for larger version

4. Do step 5 or 6 below depending on if you already have the PC settings shortcut.

5. If you do have the PC settings shortcut, then go to step 7 below.

6. If you do not have the PC settings shortcut, then click/tap on the download button below to download thePC_settings.zip file below for a clean copy.

download

A) Save the .zip file to your desktop.

B) Open the .zip file, extract (drag and drop) the Immersive Control Panel (aka: PC settings) shortcut to your desktop.

C) Move the Immersive Control Panel (aka: PC settings) shortcut into the Programs folder in step 2. (see screenshot below step 3)

D) If prompted, click/tap on Yes, Yes, Continue (UAC), Yes, and Yes to approve. (see screenshots below)

Name:  Approve.png
Views: 41922
Size:  20.6 KB

Name:  Conitnue.png
Views: 41794
Size:  27.0 KB

E) Test to see if you are able to open PC settings now.

F) If you are still not able to open PC settings, then go to step 7 below.

G) If you are able to open PC settings now, then you’re finished and can stop.

7. Open an elevated command prompt.

A) In the elevated command prompt, copy and paste the command below, and press Enter. (see screenshot below)

 

Code:
powershell -ExecutionPolicy Unrestricted Add-AppxPackage -DisableDevelopmentMode -Register $Env:SystemRoot\ImmersiveControlPanel\AppxManifest.xml
Click image for larger version

 

Note   Note
If you get the 0x8007064A error in quotes below, then it means that the Packages registry key below does not have System set as it’s owner. For how, see step 3 in Option Three here: How to “Take Ownership” of a File, Folder, Drive, or Registry Key in Windows 8 and 8.1. Afterwards, try again.

Code:
HKEY_CURRENT_USER\Software\Classes\Local Settings\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\AppModel\Repository\Packages

error 0x8007064A: Cannot register the request because the following error wasencountered while initializing the windows.repositoryExtension extension: The
configuration data for this product is corrupt. Contact your support personnel.

8. Test to see if you are able to open PC settings now.

9. If you are still not able to open PC settings, then see: Fix Store Apps and Tiles that are Not Working or Responding in Windows 8 and 8.

Source : http://www.eightforums.com/tutorials/42001-pc-settings-fix-restore-windows-8-1-a.html

บ้า LN หนัก

สวัสดีครับ เกริ่นก่อนเลยว่าผมเพิ่งไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 19 วันที่ 15 – 26 ตุลาคม โดยผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่บ้าอ่านหนังสือพอสมควร แต่ช่วงหลังๆมานี้ติดหนังสือ Light Novel ญี่ปุ่นๆ ซักหน่อย ใครจะเชื่อครับ ก่อนหน้านี้ 2 ปีผมยังอ่านหนังสือ จีนกำลังภายใน กับหนังสือแนวสืบสวนอยู่เลย

หลังจากผมหมกมุ่นกับอนิเมะมาพอสมควร แต่ก่อนไม่ค่อยบ้ามากครับ มาบ้านักเอาซัก 1 ปีที่ผ่านมา นั่งไล่ดูไปหลายเรื่อง แรกๆก็คิดว่า อนิเมะพวกนี้คืออยู่ดีๆก็มาทำ อนิเมะเลย แต่ที่ไหนได้ มันเป็น นิยายแบบ Light Novel มาก่อน จากนั้นถ้านิยายเริ่มดังถึงจะทำเป็น อนิเมะ หรือ มังงะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแนวๆนี้ หลังจากรู้แบบนี้นผมก็เริ่มหา Light Novel อ่าน แต่ร้านเช่าหนังสือแถวบ้านเจ้าของร้านเขาน่าจะแนว Boy Love นิดหน่อย ทำให้หาอ่านแนวที่ผมชอบไม่ได้อ่ะดิ ทำไงละครับ แรกๆผมอาศัยอ่านจากเว็บ สุกี้ อยู่บ่อยๆ แต่อ่านเว็บนี้ต้องใช้กำลังภายในกันซักนิด ทำให้ภาษาอังกฤษผมมีสกิวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างงั้น บางเรื่องในนี้ก็แปลไม่จบ หรือ แปลไม่ทัน ทำไงได้ครับ ของฟรีก็ต้องทนๆกันไป นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมดิ้นรนหา Light Novel แบบแปลไทยมาอ่าน

Light Novel แปลไทย ที่ผมคิดอ่านแรกๆ คงเรื่อง Sword Art Online ของค่ายเซ็นชู และก็มีเรื่อง ชมรมคนไร้เพื่อน ของค่าย ลักพิมพ์ ซึ่งงานหนังสือคราวที่แล้ว ได้มีโอกาสหยิบมาหลายเรื่องอยู่ แต่ยังอ่านไม่จบเลย อิอิ มางานหนังสือคราวนี้ผมรู้เรื่องพวกนี้มากขึ้น ทำให้การเลือกซื้อหนังสือของผมตรงตามความต้องการมากขึ้นเยอะ

ผมจำได้เลยว่าคราวที่แล้วไอ่โซนหนังสือแนวๆนี้มันโดนมาตั้งข้างนอก โคตรร้อนเลยครับทำให้ไม่ค่อยมีอารมณ์เลือกหนังสือซักเท่าไหร่ ได้แต่หยิบๆแบบไม่ต้องเลือกมาก แต่คราวนี้โซน wonderland มาอยู่ข้างใน ทำให้มีอารมณ์เดินเลือกได้มากขึ้น ผมมาคราวนี้คิดไว้แต่แรกแล้วว่าอยากได้เรื่อง Kizumonogatari ที่เป็นเรื่อง ปฐมบทของ ซีซั่น monogatari ที่จัดจำหน่ายโดย DEXPRESS ครับ ส่วนเรื่องอื่นๆก็มี พี่น้องปริศนา โรงเรียนมหาเวทย์ ของค่ายเซ็นชู ที่เพิ่มออกเล่มใหม่มาหมาดๆเลย ส่วนที่เหลือก็มี Amaki Brilliant Park กับ DXD ที่ดูเมะอย่างเดียวแล้วไม่เข้าถึงความหื่นพระเอกไม่สุด และยังมีเรื่อง Accel World พระเอกหมู อีกเรื่องที่อยากอ่านด้วย มาครั้งนี้โดนไปหลายเล่มอยู่ คงอยู่ได้อีกนานเลยครับ หวังว่างานหนังสือครั้งหน้า คงอ่านที่จัดมาจบจนหมดนะ และคนอื่นๆ ซื้อหนังสืออะไรกันบ้างในงานหนังสือ ก็มาแชร์กันได้ครับ