ความรักไม่ควรหยุดแค่วันที่ 14 กุมภาพันธ์

ความรักไม่ควรหยุดแค่วันที่ 14 กุมภาพันธ์

วัน วาเลนไทน์ ไม่สำคัญหรอก มันสำคัญทุกๆวันที่เราอยู่ด้วยกัน

วัน วาเลนไทน์ ไม่สำคัญหรอก มันสำคัญทุกๆวันที่เราอยู่ด้วยกัน

ลิงก์

Yun*chi – Your song*

มาตรฐานปลั๊กไฟในประเทศไทย

     สวัสดีครับ หายไปนานพอสมควร วันนี้กลับมาอีกครั้งกับบทความที่น่าจะมีประโยชน์มากๆ บทความนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวเรา ซึ่งเราต้องได้สัมผัสกันอยู่ทุกวัน แต่เรากลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันมากนั้น วันนี้ผมได้เรียบเรียงข้อมูลหลายๆอย่างมาให้ได้รับทราบกัน

     ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่าทุกวันนี้ทั่วโลก ต้องใช้ไฟฟ้า ซึ่งในแต่ละประเทศมีการกำหนดมาตรฐานไฟฟ้าไว้อย่างชัดเจน หลักๆกระแสไฟฟ้าที่ใช้กันทั่วไป จะมีตั้งแต่ 100 – 240 V โดย 100 – 127 จะใช้กันในประเทศโซนอเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น ส่วน 220 – 240 V จะใช้กันในส่วนที่เหลือของโลกนี้ ในประเทศไทยเราใช้ไฟฟ้า 220 V

     เมื่อเราเห็นแล้วว่าทั่วโลกมีกระแสไฟฟ้าต่างกัน แล้วถ้าเกิดเราดันไปซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์จากญี่ปุ่นที่ใช้ไฟ 110 V แต่บ้านเราใช้ 220 V จะทำยังไงให้ใช้ได้ล่ะครับ ซึ่งแน่นอนปัญหานี้มีทางแก้ เจ้าตัวแก้ปัญหานี้คือ Adapter นั่นเอง อ่าวแล้วหน้าตามันเป็นอย่างไร ดูตามรูปข้างล่างเลยครับ ผมเชื่อว่าหลายๆคนอาจจะเคยเห็น และใช้บ่อยๆ แต่ไม่รู้ว่ามันมีเพื่ออะไร

     เจ้า Adapter หน้าตาแบบนี้เลยครับ คือจะมีปลั๊กไฟ 1 อัน แต่สายปลั๊กจะต้องผ่านกล่องดำๆ แล้วจะมีสายไฟเส้นเล็กๆ ปลายสายเป็นหัวแจ็คเล็กๆ ไว้เสียบกับอุปกรณ์พวก Notebook หรือ จอคอมพิวเตอร์

     Adapter มีหน้าที่ในการแปลงกระแสไฟฟ้าจาก 220 V บ้านเราเป็นกระแสไฟฟ้าตามที่อุปกรณ์ต่างๆต้องการครับ โดยอุปกรณ์ไฟฟ้าบางอย่างอาจจะผลิตที่ญี่ปุ่น หรืออเมริกาแต่นำเข้ามาในไทย เขาจะใช้ Adapter เป็นตัวแปลงไฟ แต่ถ้าของที่ผลิตในไทยเลย ส่วนใหญ่จะไม่มีครับ สามารถเสียบใช้ได้เลย

     มีข้อควรระวังมากๆเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าที่แตกต่างกันในหลายๆประเทศครับ สำหรับคนที่ชอบเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ บางทีอาจนำอุปกรณ์ไฟฟ้าที่บ้านเราไปเสียบใช้กับที่นู้น แนะนำว่าก่อนเสียบควรจะดูก่อนว่าเต้าเสียบเขาปล่อยกระแสไฟฟ้ากี่ V ไม่งั้นอุปกรณ์ของท่านๆอาจจะกลับบ้านเก่าได้

    ต่อมาเมื่อมีกระแสไฟฟ้าแล้ว เราต้องมีปลั๊กไฟฟ้าเพื่อให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้ โดยปลั๊กก็ไม่เหมือนกันอีกในแต่ละประเภท สามารถแบ่งได้ตั้งแต่ Type A จนถึง Type L และยังมียิบย่อยอีกมาก

     ตามรูปด้านบนเป็นลักษณะของปลั๊กประเภทหลักๆ บางอย่างเราอาจเคยเห็น แต่ก็มีอีกหลายที่เราไม่เคยเห็นครับ

     ปลั๊กแบบแรก Type A ส่วนใหญ่จะมีอยู่ในประเทศที่ใช้ไฟฟ้า 100-127 V อย่างอเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น ส่วนที่บ้านเราเห็นบ่อยเช่นกันครับ พวกอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ พัดลม หม้อหุงข้าว และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆของบ้านเราส่วนใหญ่จะเป็นประเภทนี้

     Type B อันนี้จะเหมือน Type A เพียงแต่มีสายรูสายดินเพิ่มขึ้นมา ซึ่งบ้านเราจะเห็นบ่อยตามพวก Computer ตู้เย็น Adapter Notebook โดยเต้าเสียบประเทศนี้มีสายดินเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าครับ หากเกิดไฟฟ้ารั่วขึ้นมามันจะไม่ดูดเราครับ ซึ่งบ้านที่สร้างใหม่ๆส่วนใหญ่เต้าเสียบจะเป็นประเภทนี้หมดแล้ว

     Type C ปลั๊กประเภทนี้ใช้กันแพร่หลายมากในยุโรป แอฟฟริกา รวมทั้งบ้านเราด้วยครับ โดยจะเป็นปลั๊กหัวกลมๆ

     ทั้ง 3 ประเภทที่กล่าวมานี้เป็น 3 เราใช้กันอยู่ทุกวันครับ แต่ทราบหรือไม่ว่า มันไม่ตรงตามมาตรฐาน มอก 166-2549 ที่บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2551 ซึ่งตาม มอก 166-2549 ระบุให้ปลั๊กที่ได้มาตรฐานในบ้านเราลักษณะจะเหมือน Type C แต่หัวปลั๊กจะใหญ่กว่านิดหน่อยเพื่อให้แน่นกับเต้าเสียบครับ โดยมีทั้งแบบไม่มีสายดิน และมีสายดิน หน้าตาตามรูปข้างล่างครับ

     ทำให้ผมแปลกใจมากกับปลั๊กไฟในบ้านเราปัจจุบันนี้ หน้าตาเป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ ผมว่าคงไม่ใช่ แต่ทำไมยังมีของที่ไม่ผ่าน มอก.จัดจำหน่ายอยู่เพียบ ก็น่าคิดเหมือนกันครับกับความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของเรา

     แต่ทำไงได้ล่ะครับที่นี่ประเทศไทย อืมแต่ตอนนี้หลักจากผมเดินหาซื้อของตามห้าง อุปกรณ์หลายๆอย่างเริ่มใช้ Plug ตาม มอก. 166-2549 กันเยอะแล้ว แต่บางส่วนก็ยังเป็น Type A และ Type B อยู่ ครับ หลายๆคนคงไม่ชอบปลั๊กแบบ มอก. 166-2549 นี้เท่าไหร่เพราะเสียบอะไรมันก็หลวมใช่ไหมครับ ซึ่งแน่นอน เพราะเต้าเสียบที่ขายๆกันอยู่ทุกวันนี้ตามตลาดนัด คลองถม ไม่ผ่าน มอก.กันแทบทั้งนั้น คงไม่ต้องสงสัยกันมากครับ

     สุดท้ายนี้ซื้อสินค้า ควรมองหาสินค้าที่มี มอก. ไว้ก่อนจะดีที่สุดครับ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของท่าน สวัสดี

ที่มา 
http://en.wikipedia.org/wiki/AC_power_plugs_and_sockets
http://en.wikipedia.org/wiki/Mains_electricity_by_country
http://ftiweb.off.fti.or.th/standard/newsdetail.asp?id=375
https://law.resource.org/pub/th/ibr/th.cs.166.t.2549.pdf

กะทันหัน – Project Love Pill 2

ว่างๆ ไม่มีไรทำ ง่วงด้วย

Android Root Phone

     วันนี้ว่างจัด เลยนั่ง Root เครื่องโทรศัพท์ของตัวเองเล่น ซึ่งพยายามหลายๆครั้งแล้วแต่มันไม่ติดซะงั้น จนในที่สุดก็มีคนใจดีในเว็บไซด์ droidfriend.com แนะนำวิธีให้ ทำให้ผมสว่างทันทีกดทีเดียวติด หลังจาก Root แล้วเครื่องของเรารู้สึกเหมือนมันเทพขึ้น มันทำอะไรได้มากขึ้นเลยทีเดียว

     ไม่มีไรมากอ่ะครับ วันนี้อยากมาเล่ากันแค่นี้ สำหรับใครมี Android เล่นอย่าไปกลัวการ Root ครับ เพราะพอเรา Root แล้วสามารถ Unroot กลับได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะเข้าศุนย์ไม่ได้ แถม Root แล้วเราสามารถใช้ โปรแกรมหลายๆตัวที่มีใน Play Store นะครับ ยังไงลอง Root กันดูแล้วจะรู้ว่าโทรศัพท์คุณทำอะไรได้อีกเยอะ

นั่งมองตอหม้อ